เกลือสีชมพู หรือเรียกอีกอย่างว่า เกลือหิมาลายัน
ถือเป็นความมหัศจรรย์อย่างหนึ่งทางธรรมชาติ เนื่องจากเป็นผลึกเกลือที่เกิดจากการระเหยของน้ำทะเลเมื่อ 250 ล้านปีมาแล้ว จากนั้นเกิดการบีบอัดอย่างรุนแรง ทำให้เกิดโครงสร้างผลึกสีชมพูที่สมบูรณ์ของเกลือธรรมชาติ เป็นเกลือที่มีความสะอาดบริสุทธิ์ ปราศจากสารปนเปื้อน และไม่ผ่านกระบวนการใดๆ ทั้งสิ้น นอกจากนี้ ยังอุดมไปด้วยแร่ธาตุกว่า 84 ชนิด อาทิเช่น แคลเซียม แมกนีเซียม โพแทสเซียม ธาตุเหล็ก เป็นต้น จึงนับได้ว่าเป็นเกลือที่ดีที่สุดในโลก
ถือเป็นความมหัศจรรย์อย่างหนึ่งทางธรรมชาติ เนื่องจากเป็นผลึกเกลือที่เกิดจากการระเหยของน้ำทะเลเมื่อ 250 ล้านปีมาแล้ว จากนั้นเกิดการบีบอัดอย่างรุนแรง ทำให้เกิดโครงสร้างผลึกสีชมพูที่สมบูรณ์ของเกลือธรรมชาติ เป็นเกลือที่มีความสะอาดบริสุทธิ์ ปราศจากสารปนเปื้อน และไม่ผ่านกระบวนการใดๆ ทั้งสิ้น นอกจากนี้ ยังอุดมไปด้วยแร่ธาตุกว่า 84 ชนิด อาทิเช่น แคลเซียม แมกนีเซียม โพแทสเซียม ธาตุเหล็ก เป็นต้น จึงนับได้ว่าเป็นเกลือที่ดีที่สุดในโลก
แร่ธาตุ 84 ชนิดใน เกลือหิมาลายัน เกลือสีชมพู
เกลือสีชมพู มีแร่ธาตุมากกว่าเกลือทั่วไปถึง 84 ชนิด แร่ธาตุต่างๆที่จำเป็นก็คือเกลือแร่ต่างๆที่ร่างกายมีความต้องการใช้ต่อวัน ประมาณ 100 มิลลิกรัมหรือน้อยกว่า สำหรับแร่ธาตุบางอย่าง อย่างเช่น ธาตุไอโอดิน ร่างกายมีความต้องการใช้ในจำนวนเพียงเล็กน้อย 0.1 มิลลิกรัม เท่านั้น แต่ขนาดที่ร่างกายมีความต้องการจำนวนน้อยนิดนี่ แหละ หากร่างกายได้รับไม่เพียงพอ มันกลับจะทำให้สุขภาพเกิดความเสียหายได้อย่างใหญ่หลวง
โครเมี่ยม (Cr) —สามารถช่วยให้ร่างกายเผาไหม้น้ำตาล ทำให้มีพลังงาน ขณะเดียวกันก็ช่วยป้องกันมิให้ท่อหลอดเลือดและอวัยวะต่างๆมิให้ได้รับความ เสียหาย แหล่งของอาหารตามธรรมชาติได้มาจาก ตับ บรูเออร์ยีสต์ พริกไทยดำ ใบไธม์ เนื้อวัว สัตว์ปีก บร็อคโคลี่ รำข้าวและข้าวจำพวกเมล็ดต่างๆ
ทองแดง (Cu) —จำเป็นสำหรับการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดงและการสร้างพังผืดเนื้อเยื่อ และมันยังเกี่ยวข้องกับการสร้างเม็ดสีในผิวหนัง แหล่งของอาหารตามธรรมชาติได้มาจาก ตับวัว ตับไก่ ปู ช็อกโกเล็ด เมล็ดพืชต่างๆ ผลไม้ ถั่วและเม็ด(แข็ง)ของผลไม้
ไอโอดิน (I) —ต่อมไทรอยด์ใช้ในการสร้างฮอร์โมนต่างๆ ซึ่งมีความสำคัญเป็นอย่างมากในการสร้างความเจริญเติบโตของร่างกาย ใช้ในการสร้างเซลล์ สร้างใยประสาทและสร้างกระดูกและสร้างสุขภาพของจิตให้ดีขึ้น แหล่งของอาหารตามธรรมชาติได้มาจาก กุ้ง หอย ปู ปลา เคลพ์ (สาหร่ายทะเลสีน้ำตาลขนาดใหญ่)
เหล็ก(Fe) —ใช้ในการสร้างฮีโมโกลบิน โปรตีนที่พาเอาออกซิเจนให้ไหลหมุนเวียนไปทั่วร่างกาย มีส่วนในการสร้างฮอร์โมนบางชนิด สร้างเซลล์พังผืดเนื้อเยื่อ และสร้างตัวกลางสื่อประสาทสมอง ซ่อมแซมระบบภูมิคุ้มกันชีวิต แหล่งของอาหารตามธรรมชาติได้มาจาก ตับ เนื้อ สัตว์ปีก ถั่ว เม็ด(แข็ง)ผลไม้ ผลไม้แห้ง เมล็ดพืชต่างๆและพืชผักที่มีใบสีเข้ม
มังกานีส(Mn) —สารต่อต้านอนุมูลอิสระ มีบทบาทสำคัญในด้านปฏิกิริยาเคมีที่เกี่ยวข้องกับการสร้างพลังงาน การสร้างเซลล์ประสาท ช่วยในกระบวนการย่อย การสร้างกล้ามเนื้อให้มีการหดเกร็งตัว และการสร้างกระดูก แหล่งของอาหารตามธรรมชาติได้มาจาก พืชผัก ผลไม้และเมล็ดผลไม้(เปลือกแข็ง)
โมลิบดีนัม (Mo) —สารต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยให้ร่างกายยังคงมีสุขภาพที่ดีด้วยการล้างสารพิษจากโซเดียมซัลเฟตและสาร ประกอบที่มาจากกำมะถัน แหล่งของอาหารตามธรรมชาติได้มาจาก นม ถั่ว ขนมปังและเมล็ดข้าว
ซิลิเนียม (Se) —อาจจะช่วยในการป้องกันโรคมะเร็งบางอย่างและโรคหัวใจได้ และยังช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันชีวิตให้กับร่างกายได้ด้วย แหล่งของอาหารตามธรรมชาติได้มาจาก บร็อคโคลี่ เห็ด กะหล่ำปี ขึ้นฉ่ายฝรั่ง แตงกวา หัวหอมและหัวกระเทียม
สังกะสี (Zn) —นั้นมีส่วนในการสร้างโครงสร้างของร่างกายและการสร้างเครือข่ายของเซลล์ เช่นเดียวกับการสร้างเอนไซม์ต่างๆมากกว่า 200 ชนิด นอกจากนี้ยังมีส่วนสำคัญในการสมานแผล แหล่งของอาหารตามธรรมชาติได้มาจากหอยนางรม เนื้อวัว เนื้อแกะ เนื้อปู ตับวัว ตับหมูและปลายรำข้าว
ฯลฯ
เกลือสีชมพู มีแร่ธาตุมากกว่าเกลือทั่วไปถึง 84 ชนิด แร่ธาตุต่างๆที่จำเป็นก็คือเกลือแร่ต่างๆที่ร่างกายมีความต้องการใช้ต่อวัน ประมาณ 100 มิลลิกรัมหรือน้อยกว่า สำหรับแร่ธาตุบางอย่าง อย่างเช่น ธาตุไอโอดิน ร่างกายมีความต้องการใช้ในจำนวนเพียงเล็กน้อย 0.1 มิลลิกรัม เท่านั้น แต่ขนาดที่ร่างกายมีความต้องการจำนวนน้อยนิดนี่ แหละ หากร่างกายได้รับไม่เพียงพอ มันกลับจะทำให้สุขภาพเกิดความเสียหายได้อย่างใหญ่หลวง
โครเมี่ยม (Cr) —สามารถช่วยให้ร่างกายเผาไหม้น้ำตาล ทำให้มีพลังงาน ขณะเดียวกันก็ช่วยป้องกันมิให้ท่อหลอดเลือดและอวัยวะต่างๆมิให้ได้รับความ เสียหาย แหล่งของอาหารตามธรรมชาติได้มาจาก ตับ บรูเออร์ยีสต์ พริกไทยดำ ใบไธม์ เนื้อวัว สัตว์ปีก บร็อคโคลี่ รำข้าวและข้าวจำพวกเมล็ดต่างๆ
ทองแดง (Cu) —จำเป็นสำหรับการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดงและการสร้างพังผืดเนื้อเยื่อ และมันยังเกี่ยวข้องกับการสร้างเม็ดสีในผิวหนัง แหล่งของอาหารตามธรรมชาติได้มาจาก ตับวัว ตับไก่ ปู ช็อกโกเล็ด เมล็ดพืชต่างๆ ผลไม้ ถั่วและเม็ด(แข็ง)ของผลไม้
ไอโอดิน (I) —ต่อมไทรอยด์ใช้ในการสร้างฮอร์โมนต่างๆ ซึ่งมีความสำคัญเป็นอย่างมากในการสร้างความเจริญเติบโตของร่างกาย ใช้ในการสร้างเซลล์ สร้างใยประสาทและสร้างกระดูกและสร้างสุขภาพของจิตให้ดีขึ้น แหล่งของอาหารตามธรรมชาติได้มาจาก กุ้ง หอย ปู ปลา เคลพ์ (สาหร่ายทะเลสีน้ำตาลขนาดใหญ่)
เหล็ก(Fe) —ใช้ในการสร้างฮีโมโกลบิน โปรตีนที่พาเอาออกซิเจนให้ไหลหมุนเวียนไปทั่วร่างกาย มีส่วนในการสร้างฮอร์โมนบางชนิด สร้างเซลล์พังผืดเนื้อเยื่อ และสร้างตัวกลางสื่อประสาทสมอง ซ่อมแซมระบบภูมิคุ้มกันชีวิต แหล่งของอาหารตามธรรมชาติได้มาจาก ตับ เนื้อ สัตว์ปีก ถั่ว เม็ด(แข็ง)ผลไม้ ผลไม้แห้ง เมล็ดพืชต่างๆและพืชผักที่มีใบสีเข้ม
มังกานีส(Mn) —สารต่อต้านอนุมูลอิสระ มีบทบาทสำคัญในด้านปฏิกิริยาเคมีที่เกี่ยวข้องกับการสร้างพลังงาน การสร้างเซลล์ประสาท ช่วยในกระบวนการย่อย การสร้างกล้ามเนื้อให้มีการหดเกร็งตัว และการสร้างกระดูก แหล่งของอาหารตามธรรมชาติได้มาจาก พืชผัก ผลไม้และเมล็ดผลไม้(เปลือกแข็ง)
โมลิบดีนัม (Mo) —สารต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยให้ร่างกายยังคงมีสุขภาพที่ดีด้วยการล้างสารพิษจากโซเดียมซัลเฟตและสาร ประกอบที่มาจากกำมะถัน แหล่งของอาหารตามธรรมชาติได้มาจาก นม ถั่ว ขนมปังและเมล็ดข้าว
ซิลิเนียม (Se) —อาจจะช่วยในการป้องกันโรคมะเร็งบางอย่างและโรคหัวใจได้ และยังช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันชีวิตให้กับร่างกายได้ด้วย แหล่งของอาหารตามธรรมชาติได้มาจาก บร็อคโคลี่ เห็ด กะหล่ำปี ขึ้นฉ่ายฝรั่ง แตงกวา หัวหอมและหัวกระเทียม
สังกะสี (Zn) —นั้นมีส่วนในการสร้างโครงสร้างของร่างกายและการสร้างเครือข่ายของเซลล์ เช่นเดียวกับการสร้างเอนไซม์ต่างๆมากกว่า 200 ชนิด นอกจากนี้ยังมีส่วนสำคัญในการสมานแผล แหล่งของอาหารตามธรรมชาติได้มาจากหอยนางรม เนื้อวัว เนื้อแกะ เนื้อปู ตับวัว ตับหมูและปลายรำข้าว
ฯลฯ